ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกๆปีทีี่ หลังจากเสร็จสิ้นการสอบปลายภาค มีีการจัดพิธีปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษาของศูนย์การเรียนรู้เด็กพลัดถิ่น
ในเดือนกรกฎาคม 2560 เป็นการเริ่มต้นของปีการศึกษา เด็กและเยาวชน จำนวน 3,278 คน ได้ลงทะเบียนเรียนในศูนย์การเรียนรู้สำหรับผู้พลัดถิ่นทั้ง 15 ศูนย์ ภายใต้การดูแลของมูลนิธิช่วยไร้พรมแดน ประเทศไทย
ในระหว่างก่อนการเปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษา คุณครู 157 ท่าน ได้จัดเตรียมการสอน เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้แก่เด็กๆนักเรียน เพื่อให้แน่ใจว่าการเรียนรู้และการศึกษาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางทีี่ดี
ในช่วงท้ายของเดือนมีนาคมก็เป็น ช่วงสุดท้ายที่กำหนดให้แรงงานอพยพชาวเมียนมาได้ต่ออายุบัตรประจำตัว (CI) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากในการที่จะอยู่และทำงานในประเทศไทย เนื่องจากครอบครัวชาวเมียนมาจำนวนมากมีฐานะทางการเงินที่ไม่พอใช้จ่าย ขั้นตอนที่มีราคาแพงพ่อแม่ชาวพม่ามักถูกทิ้งไว้โดยไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการเดินทางออกจากประเทศไทยและกลับมายังพม่าเพื่อรอการเปลี่ยนแปลงนโยบายการย้ายถิ่นของไทย เป็นผลให้ตั้งแต่ต้นปีการศึกษานักรียนจำนวนมากได้เข้าร่วมครอบครัวของพวกเขาในพม่า, หลุดจากศูนย์การเรียนรู้ของผู้อพยพในแม่สอดและละทิ้งการศึกษาของพวกเขา
ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กพลัดถิ่นจำนวนมากกำลังดิ้นรน ในการนักเรียนและโรงเรียนและเพื่อให้ครูของพวกเขาสามารถมีเอกสารทางกฎหมายอยู่ในประเทศไทยได้ อนาคตของการศึกษาของแรงงานข้ามชาติที่มีพรมแดนไทย - เมียนมาอยู่ในภาวะเสี่ยง
มูลนิธิช่วยไร้พรมแดน ประเทศไทย เข้าร่วมงานปิดภาคเรียนประจำปี และยังคงมุ่งมั่นที่จะยืนเคียงข้างผู้พลััดถิ่นชาวเมียนมา และสนับสนุนผู้ที่พยายามดิ้นรนเพื่อได้รับการศึกษาและอยากมีชีวิตที่ปลอดภัยและอนาคตอันสดใส
ในศูนย์การเรียนรู้สำหรับผู้อพยพจำนวนมากกำลังดิ้นรนในการรักษานักเรียนในโรงเรียนและเพื่อให้ครูของพวกเขาสามารถมีเอกสารทางกฎหมายอยู่ในประเทศไทยได้ อนาคตของการศึกษาของแรงงานข้ามชาติที่มีพรมแดนไทย - เมียนมาอยู่ในภาวะเสี่ยง
แม้ว่าจะมีการดิ้นรนเหล่านี้ในขณะที่ปีการศึกษาปัจจุบันสิ้นสุดลงโรงเรียนที่อพยพจัดพิธีปิดเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จในปีนี้ร่วมกับนักเรียนครูและชุมชน
มูลนิธิช่วยไร้พรมแดน ประเทศไทย เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองและยังคงมุ่งมั่นที่จะยืนเคียงข้างผู้อพยพชาวเมียนมาและสนับสนุนผู้ที่พยายามดิ้นรนเพื่อการศึกษาชีวิตที่ปลอดภัยตามแนวชายแดนและอนาคตอันสดใส
